วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลุมกินยุนกิ past 2 [7p]




เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ แต่ยุนกิรู้แต่ว่าตอนนี้ปวดหัวมากๆ มันเหมือนจะระเบิดเลยละ 

"ไหวไหมยุนกิ" เป็นเสียงนั้นอีกแล้วชอบจัง ชอบที่ต่อให้เมื่อคืนจะเจอเรื่องร้ายแค่ไหนเสียงของคนๆนี้ก็จะเป็นเสียงในเช้าวันถัดมาเสมอ ถ้าบอกไปว่าชอบจะโดนเกลียดไหม ชอบให้มีคนๆนี้มาอยู่ด้วย อยากอยู่ไปนานๆ 

"ครับ ไหวครับ" พอลืมตาภาพตรงหน้าก็เป็นซอกจินพี่ชายคนนี้เสมอ

"ไม่ไหวก็บอกนะ วันนี้จีมินมีกะดึกไม่ได้เจอหรอก" ชายคนที่ซอกจินพูดถึงหมายถึงคุณหมอหนุ่มปาร์คจีมิน เพราะอาชีพที่ทำอยู่ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลามากนัก บ้างครั้งก็กลับบ้านเอาซะตี2มาอาบน้ำแล้วก็กลับไปทำงานต่อ ก็นับเป็นโชคดีของยุนกิที่ไม่ต้องเจอเหมือนกัน  
ร่างกายยุนกิเองก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน เมื่อคืนก็พึ่งรู้สึกเจ็บแบบนั้น ถ้าต้องทำต่อคงจะแย่น่าดูใครจะรู้ในคืนที่ยุนกิหลับสนิทคุณหมอหนุ่มปาร์คจีมิน ตั้งใจกลับมาที่บ้าน สิ่งที่แอบไปดูก็คือยุนกิ เขาน่ารักและอ่อนโยน ไม่สมควรถูกทำร้ายเลยด้วยซ้ำ 

"ฝันดีนะครับ" จีมินประกบจูบลงบนใบหน้าขาวเนียนของยุนกิ และ เดินออกมา ในบ้านหลังนี้ก็เห็นจะมีจีมินแค่คนเดียวที่เลิกยุ่งกับเลือดมนุษย์มานานแสนนาน เขาไม่อยากต้องมาตกอยู่ในวังวนแห่งความหิวกระหาย ถึงมันจะทำให้พลังแวมไพร์ของเขาลดลงแต่เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธมัน แต่เมื่อครู่กลิ่นหัวของยุนกิทำเอาสัญชาติณาณแวมไพร์ของเรา
แทบจะกลับมาทั้งๆที่แค่ได้กลิ่นตัวหอมๆนั้น หวังว่าถ้าต้องเจอเด็กคนนี้ไปนานๆจะเป็นบ้าไปก่อนไหมก็ไม่รู้สินะ 

"เจ้าเด็กนี้ดูไปก็น่ารักเหมือนกันนะ"เสียงทุ่มต่ำชวนให้คนที่หลับอยู่อยากลืมตามาดูมากขึ้น เขาไม่เคยได้ยินเสียงนี้ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้าเจ้าของเสียง ม่านตาใสเปิดออกเผยให้เห็นชายตรงหน้า คำนิยามสั้นๆที่พอจะบอกตัวตนของเขาได้คงมีแค่คำว่า หล่อ ดูดี ใบหน้าที่รับกับเสียงทุ่มแบบนั้น ผู้ชายคนนี้ช่างสมบรูณ์แบบจริงๆ 

"ตื่นแล้วสินะ นายนี้ขี้เกียจจริงๆเลย นอนตั้งแต่เมื่อวานยังไม่พอรึไง" พูดจาขวานฝ่าซากแต่ก็แฝงด้วยความห่วงใย ให้ตายเถอะ คนตรงหน้าเป็นใครกันแน่

"ยังจะทำหน้างงอีก รีบตื่นมาทำหน้าที่ซะ" หน้าที่หรือว่าจะเป็นคนๆนั้น คิม แทฮยอง
ริมฝีปาก ประกบจูบลงบนหน้าผากขาวอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกที่ เขาก็อยู่ใต้ร่างของแทฮยองซะแล้ว แทฮยองไม่ใช่คนที่ชอบพูดอะไรยืดยาว หรือนานจนไม่เป็นอันทำอะไร ดังนั้นสิ่งที่เขาชอบทำคือการเล่นเกมส์ของตัวเองให้สนุกจนกว่าอีกคนจะยอมแพ้  เกมส์ของเขาคือเกมส์จองตา

"มาเล่นเกมส์กัน กฎมีอยู่ว่าถ้ามึงกระพริบตาก่อน หรือหายใจก่อน ถือว่ามึงแพ้และกูก็จะเอามึง"  ให้ตายเถอะคนบ้านนี้ชอบเล่นอะไรแปลกๆแถมแต่ละอย่างดูแล้วยุนกิจะเป็นฝ่ายเสียซะมากกว่า ไม่ใช้แค่เสียเปรียบนะแต่ดูเหมือนจะเสียตัวด้วย

"กูนับแล้วนะ" ยังไม่ได้พูดพลามอะไรก็ถูกแทฮยองมองด้วยตาโต

"1 2 3 เริ่ม " ดวงตาแดงสดใสที่แลดูน่ากลัวในบ้างครั้งแต่ครั้งนี้มันเหมือนถูกสะกด ดวงตานั้นค่อยเปลี่ยนเป็นสีม่วงสวยงาม แถมยังดูน่าหลงไหลมากเป็นพิเศษ แถบอยากหยุดทุกอย่างไว้ตรงนั้นเลยละยิ่งเวลาที่ถูกแทฮยองจองด้วยตาสีนี้ มันเหมือนมีแรงดึงบ้างอย่างทำให้เขาสนใจแค่ตาคู่นั้น 

"มึงกำลังใจเต้น กูได้ยินนะ สรุปว่ามึงแพ้" แทฮยองพูดออกมาทั้งๆที่ยังทำตาโตอยู่ แล้วกลับเปลี่ยนสีมันทันทีที่พูดจบตาสวยสีม่วงกลับมาเป็นสีแดงอีกครั้ง 

"มึงอยากถอดเองรึเปล่า ตั้งแต่เจอหน้ามึง มึงยังไม่พูดกับกูเลยนะ" น้ำเสียงเข้มของเขาทำให้ยุนกิตกใจเล็กน้อย

"ผมไม่รู้ว่าควรพูดยังไงต่อหน้าคุณ คุณดูดีมากเลย ดูเหมือนกับพวกไอดอลหน้าตาดีเลยละ" ยุนกิคงไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้างก็มันจริงนินา แววตาสีหน้า ทุกๆอย่างมันชวนให้หลงไหลไม่ใช่น้อย ถ้าบอกว่า อยากกับคนตรงหน้า ก็ดูจะเป็นคำพูดที่แรงไป แต่ก็อยากจริงๆนะถึงได้ ปล่อยให้หัวใจเต้นจน เขาได้ยินหลอกนะ

"มึงมองนานไปแล้วนะ อยากเป็นเมียกูก็พูดดีๆไม่ต้องมาอ้อมค้อม พูดจาสุภาพ กูชอบคนตรงๆ" 

"อยากได้" ถ้าได้ยินไม่ผิดไอ้คำพูดแบบนั้นหลุดออกมาจากเด็กที่แสนสุภาพคนนี้ได้ไงกัน

"เอ่อ นี้แหละที่กูอยากได้ยินจากปากมึง" แทฮยองเลื่อนใบหน้าได้รูปชนกับจมูกขาว "เริ่มกันเถอะ" 
กิจกรรมรักที่ร้อนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองยังคงทำมันโดยไม่รู้จักดูวันเวลา

"อ่า~~ แทฮยองลึกๆสิครับ" เสียงครางของยุนกิ ชวนให้อีกคนเพิ่มแรงลงไปอีก

"อ่า~ อะ อะ อ่าาาาาาาา" ร้องแรง เล้าโล้มและรุมร้อน ไม่อยากจะเชื่อว่ายุนกิจะยอมรับ แรงกระทับทุกอย่างของแทฮยองด้วยความเต็มใจ ไร้น้ำตาอาบแก้ม ไรความกังวล และเปิดเผย

"พอแค่นี้นะ กูเมื่อยแล้ว" เขาคงใช้เรื่องพวกนี้มากเกินความจำเป็นสำหรับมนุษย์คนนี้ไม่ได้เพราะเขาเองก็เริ่มอ่อนเพลียแล้

"อีกนิดไม่ได้หรอ ขอแค่อมก็ได้" แทบจะเป็นไปไม่ได้
ยุนกิขอทำเรื่องอย่างว่าต่อโดยไม่รู้จักเหนื่อย

"พอๆกูให้แค่แปบเดียวห้ามนานไม่งั้นกูจะกัดมึงให้พรุนเลย" การพยักหน้าของอีกคนแสดงความยื่นยัน
แทฮยองไม่รู้ว่าสัมผัสตรงหน้าเรียกว่าอะไรแต่ตอนนี้ คนตรงหน้ากำลังอมวัตถุอย่างว่าของเขาเหมือนเด็กทารกอยากนมไม่มีผิด

"หิวมากรึไง" 

"อืม จ๊วบๆๆๆ" ยังคงดูดต่อสินะ ไอเด็กนี้ แค่จะเล่นนิดหน่อยแต่กลับเป็นเขาเองที่ต้องมายอมแพ้เกมส์นี้แล้วไปต่อที่กัดคอสิ เขาทนโดนเด็กคนนี้เล่นเกมส์ของเขาซะเองไม่ได้ แล้วกัดคอแล้วซูบเลือดซะ ยุนกิจะได้เป็นไปตามเกมส์ของเขาซะ

"อือ เจ็บจัง" เสียงร้องสุดท้ายของคนตัวขาว หลังจากที่ทนโดนดูดอวัยวะยู่นานก็ถอนมันออกจากปากสวยของยุนกิแล้วหันมากัดคอ เขาต้องการให้เกมส์นี้จบแล้วละ ก่อนที่จะเลียแผลและส่งอีกคนเขานอน ด้วยรอยเขี้ยวคมที่คออีกครั้ง
รู้สึกเพลียมาก เหมือนผ่านเรื่องหนักๆมาทั้งคืนแถมยังคาวปากแปลกๆ แต่วันนี้ที่แปลกที่สุดคงจะเป็น คิม ซอกจิน นาฬิกาปลุกคนนั้น หายไปไหนกันนะ เพราะจำอะไรไม่ได้เลยเขาจึงพยามสำรวจรอบห้อง ตอนนี้เขารับรู้ว่ากลับมานอนที่ห้องตัวเองแล้วแต่ ก็ยังคงสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน 

"เจ็บ" ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือความเจ็บที่ส่วนช่องทางรัก ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกจนกระทั่งเจอรอยแดงที่คอ ทำไมจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนอยู่กับใคร จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่จำได้คือ เขานอนอยู่ในห้องของปาร์ค จีมิน ไหนตอนนี้ถึงกลับมาที่ห้องตัวเอง พออยากนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเลยพยามพยุงตัวเอง จากในห้องเกาะราวบันไดทางเดิน สำรวจความผิดปกติของบ้าน บ้านมันเงียบเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ คิมซอกจินหายไป ไปไหนไม่รู้ ที่ห้องก็ไม่เจอ หรือว่าเขาจะถูกพี่ชายแสนดีคนนั้นทิ้งไปแล้ว

"มาทำอะไรที่ชั้นกู" เสียงโทนอบอุ่น แต่ทำไมคนพูดถึงได้ดูน่ากลัวทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้า 

"คือว่า เดินมาหาพี่ซอกจินครับ ขอโทษจริงๆนะครับ" พูดขอโทษออกไปแบบนั้นก็เลยถูกอีกคนส่วนกลับด้วยท่าทางที่ดูไม่พอใจ แล้วปิดประตูเข้าห้องไปก่อนทิ้งคำที่ทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว

"คืนนี้มึงก็ต้องขึ้นมาเอากับกูอยู่ดี" ไม่เดาก็คงรู้ตอนนี้เขาอยู่ที่ชั้น3 ฉันของจองกุก สินะ
พอเริ่มตั้งสติได้ก็เดินกลับมาชั้นล่างของบ้าน มีแม่บ้านเตรียมอาหารไว้ให้พอสมควร แถมยังทักทายกันอย่างเป็นมิตร

"ทานข้าวนะคะ"

"คุณป้าครับ พี่ซอกจินไปไหนครับ" ระหว่างตักอาหารเข้าปาก ก็ถามหาพี่ชายจากคนในบ้าน

"ไปข้างนอกคะ ไปทำงานไม่ได้บอกไว้ว่าจะไปไหน บอกแค่ว่าจะกลับดึกๆฝากดูแลยุนกิด้วย"

"ขอบคุณนะครับ" ยิ้มบางให้แม่บ้านคนนั้นแล้วกลับไปที่ห้องตัวเอง นอนลงกับเตียงอย่างง่วงๆอาจจะเป็นเพราะอ่อนเพลียสะสมก็เลยเผลอหลับไปยาว จะว่าไปการอยู่เงียบพักสบายๆก็ดีสำหรับเขาเหมือนกัน

"มึงจะมาได้รึยังนี้เย็นแล้ว" เสียงตะโกนออกมาจากหน้าห้องทำให้ยุนกิต้องเรียกวิญญาณที่กำลังเฝ้าพระอินทร์อยู่ให้กลับมาเปิดประตูห้อง

"ครับ" ยุนกิตอบทั้งๆที่ไม่ลืมตา ก็เป็นแบบนี้ทุกทีที่ต้องมีคนมาปลุกแบบนี้ พอเปิดประตูขึ้นมาก็เจอเลยละ คนที่มาเรียกเขาจากฝันหวาน จอน จองกุก 
เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่ยุนกิอยู่ภายใต้ร่างใหญ่ของจองกุกแถมโดนจ้องอย่างไม่วางตา ไม่รู้ว่าเขาควรบรรยายความรู้สึกตรงหน้ายังไง รู้แค่ว่าชายคนนี้น่ากลัว น่ากลัวมากจริงๆ

"มึงนี้ตัวหอมนะ" ใบหน้าหล่อได้รูปเลื่อนเขามาชิดใบหน้าคนตัวขาวแถมซูดด่มอย่างพอใจก่อนเอ่ยออกมา ใบหน้าที่ห่างกันเพียงปลายนิ้ว ตอนนี้ยุนกิรู้สึกอึดอัดเอาซะมากๆก็ พอเลิกจองหน้า ก็ดันเอาหน้ามาแนบแก้มเขาอีก 

"มึงไม่พูดกับกูหน่อยหรอ หรือมึงรอที่จะครางให้กูฟังอย่างเดียว" อสรพิษก็ยังคงเป็นอสรพิษ เกือบว่างใจให้คนตรงหน้าไปแล้ว แต่ยังไงจองกุกก็คงเป็นพวกเดียวกับพี่ๆของตัวเองอยู่ดี หวังแต่เรื่องอย่างว่าจากร่างกายของยุนกิ

"ตกลงว่าไง ไม่พูดใช่ไหม" ใบหน้าหล่อของจองกุกกดลงบนปลายจมูกลั้นของยุนกิ "รึมึงรอให้กูจูบก่อนถึงจะพูดได้" ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็โดนจูบซะแล้ว
มิน ยุนกิคนโง่ปล่อยตัวให้จองกุกง่ายๆได้ยังไง แต่สัมผัสของจองกุก มันก็ผิดกับคนอื่นที่ผ่านมาจริงๆ แต่ถ้าพูดออกไปว่าชอบก็คงไม่ใช่ เพราะเขายังรู้สึกถูกข่มอยู่ 

"มึงต้องร้องไห้ดังนะ ตอนที่กูเอามึง เอาให้ดังกว่าพวกมัน ถ้ามึงร้องไม่ดังกูจะลงโทษมึง" เอะอะก็ใช่แต่กำลังจองกุกนี้เป็นคนแบบไหนกันแน่นะ

"จะลงโทษยังไงละครับ"

"กูจะจูบมึงให้ปากบวม กูจะกดมึงให้จมกับเตียงเลย แต่ถึงยังไงกูก็ต้องทำอยู่แล้ว ช่างแม่งขี้เกียจพูดแล้ว เรามาเอากันดีกว่านะ ไอน้องชาย" ทันทีที่จบประโยคร่างที่ประชิดตัวอยู่แล้วกดแรงมากขึ้น เขากระชากเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออกอย่างไม่ใยดี สบตายุนกิครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มกิจกรรมรักอันเร้าร้อน

"กูจะเอามึงแล้วนะ" ถึงอย่างนั้นยุนกิก็รู้สึกเร้าร้อนตามไปด้วย ทั้งคำพูดและการกระทำของจองกุกจุดฉนวนให้ความยาก หรือที่พวกมนุษย์เรียกกันว่าโลภ เพิ่มมากขึ้น เขาต้องการมันอีก ต้องการมันมากๆ 

"อ่า~ คุณจองกุก เบาๆหน่อย โอ๊ย อ่า~" ไม่รู้เพราะแรงที่เยอะไปของจองกุกหรือความบางของยุนกิแต่เขาก็เผล่อร้องออกมาในระหว่างที่ถูกเสียบเขาด้วยของแข็ง แรงกดลึกของมันมีมากขึ้นตามแรงของจองกุก เขากำลังคึกมากๆ เหมือนได้กินยาบ้ามาเลยละ เขากดแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนของสีแดงไหลออกมาจากช่องทางรัก ถึงกระนั้น ยุนกิก็ไม่ได้ปรามให้หยุดแต่กลับบอกไปว่า

"อ่า~ ดีแล้ว อ่า~ เอาอีก อ่า~~ ผมอยากได้อีก" จะว่าไปแล้วไอเด็กนึ้ก็แปลกคนโดนเอามาตั้งหลายหนแต่กลับมา คร่ำครวญของจากจองกุกซะมาก เห็นที่ผ่านๆมากับพี่ๆของเขา ก็ทำแค่นั่งร้องไห้ ยอมรับชะตากรรม แต่ทำไมถึงกลายเป็นเด็กแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้
ของแข็งของจองกุกถูกเสียบลงช่องทางรักอย่างไม่คิดหยุดพักแต่แค่นี้สำหรับยุนกิมันคงน้อยไปด้วยซ้ำ เขาเอามือของตัวเองมาดึงแล้วจิกหลังของจองกุกไว้ขนาดโดนกระทำ แต่ก็ไม่วายที่จะเอาหน้าของจองกุกกดลงซอกคอของตัวเอง
"มนุษย์เนี้ยโง่เหมือนนายทุกคนรึเปล่านะ" จองกุกซูดกลิ่นกายที่หอมหวานก่อนบรรจงวางเขี้ยวคมลงบนเนื้อเนียน ไหลขาวถูกแทนที่จากรอยแดงที่ถูกแทฮยองดูดด้วย รอยเขี้ยวคมของจองกุก

"อือออออออ"

"เจ็บไหมละ กูบอกแล้วไงมึงมันโง่ยุนกิ มึงทำให้กูหิวเองนะ" จองกุกไล่กัด ตามตัวที่มีรอยแดงที่เกิดจากการกระทำของพี่ชายทั้งหมดของพวกเขา จองกุกลบมันด้วยเขี้ยวคมจนเกือบลืมไปว่า ตัวเองกัดแรงแค่ไหน เขากัดจนเป็นแผลลึก แต่อีกคนที่นอนอยู่ก็เอาแต่ร้อง "อือออ" แบบนี้ตลอด 

"กูบอกแล้วไงว่าเจ็บ แต่กูไม่หยุดนะกูไม่ไหวแล้วกูหิว" 
จองกุก เพิ่มรอยเขี้ยวให้มากกว่าเดิม ไล่กัดตามร่างกายขาวที่ถูกซอกจินสัมผัส ร่างกายที่ถูกกดจากนัมจุน ร่างกายที่ได้รับแรงกระทำจากโฮซอก ร่างกายที่ได้รับรอยจุบอุ่นของจีมิน ร่วมไปถึงไอการกระทำบ้าๆเมื่อวานที่หลง มนต์สะกดของแทฮยองด้วย เขากัดมันทุกส่วนเพื่อลบภาพ ที่ทุกคนมรรวมกับยุนกิ เพียงเพราะยากให้ยุนกิเป็นแค่โมเดลของเขาคนเดียว พอหันมาดูอีกที่ยุนกิก็สลบไปแล้ว 

"มึงจะรู้ไหมว่ามึงเป็นคนแรกที่กูเห็นแล้วอยากเอาที่สุด" นิ้วเรียวกดลงบนคอขาวเพื่อสร้างแผลให้ดูเหมือนรอยเคี้ยว แผลในร่างกายยุนกิถูกลิ้นสวยลูบไล่เพื่อทำความสะอาดจากปากของแวมไพร์ โดยปกติแล้วคุณสมบัติของมันจะ ช่วยรักษาบาดแผลที่ฉีกขาดแต่จองกุกทำเพื่อตรีตรา หรือแสดงความเป็นเจ้าของทับรอยทุกรอยนั้นแหละ

"อือ แม่ผ....ผมหนาว" ยุนกิร้องขึ้นมากลางดึก ตอนนี้ในห้องไม่มีจองกุก ในห้องมีแต่รอยบาดแผลเต็มตัวเขา กับเลือดที่เปียกชุ่มผ้าปูที่นอน ทั้งเลือดจากช่องทางรักและเลือดจากบาดแผล มันเจ็บจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว เหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆเลยละ

"มึงร้องทำไมกูรำคาญ" นี้ไม่ใช่เสียงของจองกุก แต่เป็นเสียงของโฮซอก ชายปากดีคนนี้ที่พึ่งกดยุนกิจมเตียงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็มาเป็นห่วงจนได้ ก็ห้องนอนเขาหนะอยู่ตั้งชั้นสี่ แค่เสียงเล็กของคนป่วยจะไปได้ยิ้นได้ไง ตั้งใจลงมาหานั้นแหละคือคำตอบ

"นี่มึงไข้ขึ้นหรอ ตัวร้อนจี้เลย มนุษย์เขาทำกันยังไงละ กูตามจี้มินให้ละกัน มึงไปนอนห้องตัวเองนะ"  ปากแข็งคงเป็นคำที่ใช่นิยามชายคนนี้สินะ ก็เป็นห่วงนึ้นแหละ 

"อืออ"

"ให้กูทำไง มึงรอจีมินแปบหนึ่งสิ"

"ห....หนาว" 

"กูกอดก็ไม่อุ่นหรอก รอแปบสิ ห่มผ้าไปซะ มึงคงเจ็บมากสินะ แผลทั้งตัวเลย เดี่ยวรอก่อน จีมินกำลังลงมา" 

"อือออ" 

"เหมือนกูพูดคนเดียวเลย " อยู่ๆโฮซอกก็หัวเราะให้กับท่าทางของตัวเอง มีอย่างที่ไหนละ มานั่งมองคนป่วยแล้วหัวเราะหนะ ไม่นานนักจีมินก็เดินเขามา พร้อมกับแทฮยอง 

"น้องเป็นไรโฮซอก" 

"กูไม่รู้ตีวมันร้อนแผลก็เต็มตัว ไอ้เหี้ยกุกกินแล้วไม่เคยเก็บแบบนี้ทุกทีแหละ" 

"อะไรนะ น้องมันนอนกับจองกุก" แทฮยองเปิดตากว้าง

"มึงรีบเลยจีมิน เดี่ยวมันตาย" 

"มึงจะแช่งมันทำเหี้ยอะไรไอแท"

"กูไม่ได้แช่งรีบไปดูสิ กูรู้สึกได้แปลกๆ" 

พอจีมินตรวจเช็คดูเท่านั้นแหละเป็นไปตามคาด ไข้สูงแบบนี้ ใจสั่นแบบนี้ ความดันแบบนี้ แผลที่ถูกกัดติดเชื้อ และคงลามไปถึงส่วนต่างๆของร่างกายแล้ว 
ทันทีที่รู้หมออย่างจีมินเลยรีบทำแผลให้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของยุนกิถูกบิดรอยแผลด้วยผ้าก็อสสีขาว มันถูกพันบางแผล ส่วนบ้างแผลก็ลึกจนต้องเย็บแผล ผิวขาวๆตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยผ้าก็อสสีขาว จนไม่ต้องมีเสื้อผ้ามาปกปิดก็ดูไม่โป้อะไร้ เพราะร่างกายของเขามีแต่รอยบาดแผล แม้กระทั่งซอกนิ้วยังไม่เว้น 

"เดี่ยวกูเอาเลือดยุนกิไปตรวจ แล้วเดี่ยวกลับมา ไปตามพี่จินกลับมาให้เร็วที่สึดและก็โฮซอกกูฝากดูยุนกิด้วย ถ้าเลือดมันออกเยอะมาก มึงต้องรีบล้างแผลให้น้องใหม่ ทุกคนเข้าใจแล้วนะ"

"แล้วนี้นัมจุนไปไหนอะ" 

"ไปกับพี่จิน ตามกลับมาพร้อมกันนั้นแหละ กูฝากพวกมึงด้วยนะ" 
จีมินเดินออกไปด้วยความเร่งรีบ แต่ละคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ในห้องพักจึงเหลือแค่คนตัวเล็กกับโฮซอกที่ยืนมองอยู่

"ห...หนาวเจ็บ อืออ" 

"กูบอกแล้วไงกูทำอะไรไม่ได้ จีมินก็ฉีดยาให้มึงแล้วไง" 

"ห...หนาว อึก แม่ครับอย่าทิ้งผมไปนะ อึก" สำหรับยุนกิแล้วการเสียแม่ไปทั้งๆที่อายุยังน้อยอาจเป็นเรื่องที่ทำใจยาก เขายังคงเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ยังไม่พร้อมจะเสียคนที่รักไป แต่พระเจ้ากลับเล่นตลกกับชีวิตเขาส่งเขามาให้ปีศาจอย่างจองกุก 

"กูสงสารมึงนะ มากูกอดมึงก็ได้ แต่ไม่หายหนาวหรอกนะ" โฮซอกกอดคนตัวเล็กด้วยความอ่อนโยน จะว่าไปผู้ชายปากแข็งแบบเขาก็พึ่งจะทำแบบนี้ครั้งแรกละนะ

"อยากทิ้งผมไปนะ ขอร้องละอย่าไปไหนนะ" 

"เอ่อ กูสัญญามึงก็ห้ามตายละ กูก็รู้สึกถูกใจมึงนั้นแหละ อย่าทำให้กูต้องอกหัก ตั้งแต่รักแรกละ" แข็งถือแต่อบอุ่น โฮซอกเป็นลูกชายที่ดูเหมือนจะได้รับนิสัยของพ่อเขามาเต็มๆ ผู้ชายที่ดูดุดันน่ากลัวแต่กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน อบอุ่น และปกป้องเราได้ ผู้ชายที่ชื่อโฮซอก
สัมผัสของแวมไพร์ไม่ได้ทำให้อบอุ่น ไม่ได้หายหนาวเลย แต่มันทำให้เขารู้สึกได้ว่า
.
.
.
.
.
ไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
หลังจากกอดกันได้สักพักโฮซอกก็ตรวจอาการของยุนกิ ผ้าพันแผลที่ตอนแรกที่เป็นสีขาว เริ่มมีเลือดของคนตัวเล็กไหลซึมออกมา โฮซอกจึงรีบทำแผลให้คนตัวเล็ก 

"เจ็บมากสิมึงถึงได้หน้าซีดขนาดนี้ รอจีมินแปบเดี่ยวมันรีบกลับ" 

"กลับมาแล้ว โฮซอก พายุนกิไปโรงพยาบาลเถอะกูว่าเดี่ยวเคลียให้เอง" หมอหนุ่มเดินเข้ามาอย่างเคร่งเครียด

"งั้นไปเลย มันละเม่อว่าหนาวอยู่ได้กูเริ่มรำคาญแล้วรีบไปเถอะ" โฮซอกก็ยังคงปากแข็งแต่ก็อุ่มร่างเล็กของยุนกิขึ้นรถแล้วออกไปพร้อมกับจีมิน 
เป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมงที่จีมินหายไปในห้องผ่าตัดเขาบอกว่า ร่างกายยุนกิกำลังแย่ ยังไงก็ต้องรีบรักษา ถ้าไม่ได้มีอะไรร้ายแรงก็คงไม่หายไปนานขนานนั้นหรอก เพราะจองกุกใช้ใหม่ที่กำลังพรากรักแรกของโฮซอกไป ถ้าไม่มีจองกุก ยุนกิก็จะยังคงปลอดภัย ไม่รู้ว่ามันทำระยำอะไรกับร่างกายของยุนกิ 
ยุนกิกำลังแย่

ความรู้สึกของโฮซอกเองก็เช่นกัน

มันคงไม่ต่างกับตอนที่ต้องเสียของสำคัญไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ

ขอร้องได้ไหม 

ช่วยทำให้เราสองคนเจอกันเร็วกว่านี้

เจอกันในแบบที่ดีกว่านี้

ขอให้เราได้รักกันสักครั้งก็ยังดี



---------------------------------------------------------------------
จบแล้วย่า~
โฮปก้าสินะ
อวยคนอื่นแทบตายสุดท้ายไรท์ก็มาจมความอบอุ่นของโฮปเอง
นั้นแหละ
จะกลับไปแต่งฟิคยาวแล้วน่า~


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น