วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลุมกินยุนกิ past 2 [7p]




เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ แต่ยุนกิรู้แต่ว่าตอนนี้ปวดหัวมากๆ มันเหมือนจะระเบิดเลยละ 

"ไหวไหมยุนกิ" เป็นเสียงนั้นอีกแล้วชอบจัง ชอบที่ต่อให้เมื่อคืนจะเจอเรื่องร้ายแค่ไหนเสียงของคนๆนี้ก็จะเป็นเสียงในเช้าวันถัดมาเสมอ ถ้าบอกไปว่าชอบจะโดนเกลียดไหม ชอบให้มีคนๆนี้มาอยู่ด้วย อยากอยู่ไปนานๆ 

"ครับ ไหวครับ" พอลืมตาภาพตรงหน้าก็เป็นซอกจินพี่ชายคนนี้เสมอ

"ไม่ไหวก็บอกนะ วันนี้จีมินมีกะดึกไม่ได้เจอหรอก" ชายคนที่ซอกจินพูดถึงหมายถึงคุณหมอหนุ่มปาร์คจีมิน เพราะอาชีพที่ทำอยู่ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลามากนัก บ้างครั้งก็กลับบ้านเอาซะตี2มาอาบน้ำแล้วก็กลับไปทำงานต่อ ก็นับเป็นโชคดีของยุนกิที่ไม่ต้องเจอเหมือนกัน  
ร่างกายยุนกิเองก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน เมื่อคืนก็พึ่งรู้สึกเจ็บแบบนั้น ถ้าต้องทำต่อคงจะแย่น่าดูใครจะรู้ในคืนที่ยุนกิหลับสนิทคุณหมอหนุ่มปาร์คจีมิน ตั้งใจกลับมาที่บ้าน สิ่งที่แอบไปดูก็คือยุนกิ เขาน่ารักและอ่อนโยน ไม่สมควรถูกทำร้ายเลยด้วยซ้ำ 

"ฝันดีนะครับ" จีมินประกบจูบลงบนใบหน้าขาวเนียนของยุนกิ และ เดินออกมา ในบ้านหลังนี้ก็เห็นจะมีจีมินแค่คนเดียวที่เลิกยุ่งกับเลือดมนุษย์มานานแสนนาน เขาไม่อยากต้องมาตกอยู่ในวังวนแห่งความหิวกระหาย ถึงมันจะทำให้พลังแวมไพร์ของเขาลดลงแต่เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธมัน แต่เมื่อครู่กลิ่นหัวของยุนกิทำเอาสัญชาติณาณแวมไพร์ของเรา
แทบจะกลับมาทั้งๆที่แค่ได้กลิ่นตัวหอมๆนั้น หวังว่าถ้าต้องเจอเด็กคนนี้ไปนานๆจะเป็นบ้าไปก่อนไหมก็ไม่รู้สินะ 

"เจ้าเด็กนี้ดูไปก็น่ารักเหมือนกันนะ"เสียงทุ่มต่ำชวนให้คนที่หลับอยู่อยากลืมตามาดูมากขึ้น เขาไม่เคยได้ยินเสียงนี้ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้าเจ้าของเสียง ม่านตาใสเปิดออกเผยให้เห็นชายตรงหน้า คำนิยามสั้นๆที่พอจะบอกตัวตนของเขาได้คงมีแค่คำว่า หล่อ ดูดี ใบหน้าที่รับกับเสียงทุ่มแบบนั้น ผู้ชายคนนี้ช่างสมบรูณ์แบบจริงๆ 

"ตื่นแล้วสินะ นายนี้ขี้เกียจจริงๆเลย นอนตั้งแต่เมื่อวานยังไม่พอรึไง" พูดจาขวานฝ่าซากแต่ก็แฝงด้วยความห่วงใย ให้ตายเถอะ คนตรงหน้าเป็นใครกันแน่

"ยังจะทำหน้างงอีก รีบตื่นมาทำหน้าที่ซะ" หน้าที่หรือว่าจะเป็นคนๆนั้น คิม แทฮยอง
ริมฝีปาก ประกบจูบลงบนหน้าผากขาวอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกที่ เขาก็อยู่ใต้ร่างของแทฮยองซะแล้ว แทฮยองไม่ใช่คนที่ชอบพูดอะไรยืดยาว หรือนานจนไม่เป็นอันทำอะไร ดังนั้นสิ่งที่เขาชอบทำคือการเล่นเกมส์ของตัวเองให้สนุกจนกว่าอีกคนจะยอมแพ้  เกมส์ของเขาคือเกมส์จองตา

"มาเล่นเกมส์กัน กฎมีอยู่ว่าถ้ามึงกระพริบตาก่อน หรือหายใจก่อน ถือว่ามึงแพ้และกูก็จะเอามึง"  ให้ตายเถอะคนบ้านนี้ชอบเล่นอะไรแปลกๆแถมแต่ละอย่างดูแล้วยุนกิจะเป็นฝ่ายเสียซะมากกว่า ไม่ใช้แค่เสียเปรียบนะแต่ดูเหมือนจะเสียตัวด้วย

"กูนับแล้วนะ" ยังไม่ได้พูดพลามอะไรก็ถูกแทฮยองมองด้วยตาโต

"1 2 3 เริ่ม " ดวงตาแดงสดใสที่แลดูน่ากลัวในบ้างครั้งแต่ครั้งนี้มันเหมือนถูกสะกด ดวงตานั้นค่อยเปลี่ยนเป็นสีม่วงสวยงาม แถมยังดูน่าหลงไหลมากเป็นพิเศษ แถบอยากหยุดทุกอย่างไว้ตรงนั้นเลยละยิ่งเวลาที่ถูกแทฮยองจองด้วยตาสีนี้ มันเหมือนมีแรงดึงบ้างอย่างทำให้เขาสนใจแค่ตาคู่นั้น 

"มึงกำลังใจเต้น กูได้ยินนะ สรุปว่ามึงแพ้" แทฮยองพูดออกมาทั้งๆที่ยังทำตาโตอยู่ แล้วกลับเปลี่ยนสีมันทันทีที่พูดจบตาสวยสีม่วงกลับมาเป็นสีแดงอีกครั้ง 

"มึงอยากถอดเองรึเปล่า ตั้งแต่เจอหน้ามึง มึงยังไม่พูดกับกูเลยนะ" น้ำเสียงเข้มของเขาทำให้ยุนกิตกใจเล็กน้อย

"ผมไม่รู้ว่าควรพูดยังไงต่อหน้าคุณ คุณดูดีมากเลย ดูเหมือนกับพวกไอดอลหน้าตาดีเลยละ" ยุนกิคงไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้างก็มันจริงนินา แววตาสีหน้า ทุกๆอย่างมันชวนให้หลงไหลไม่ใช่น้อย ถ้าบอกว่า อยากกับคนตรงหน้า ก็ดูจะเป็นคำพูดที่แรงไป แต่ก็อยากจริงๆนะถึงได้ ปล่อยให้หัวใจเต้นจน เขาได้ยินหลอกนะ

"มึงมองนานไปแล้วนะ อยากเป็นเมียกูก็พูดดีๆไม่ต้องมาอ้อมค้อม พูดจาสุภาพ กูชอบคนตรงๆ" 

"อยากได้" ถ้าได้ยินไม่ผิดไอ้คำพูดแบบนั้นหลุดออกมาจากเด็กที่แสนสุภาพคนนี้ได้ไงกัน

"เอ่อ นี้แหละที่กูอยากได้ยินจากปากมึง" แทฮยองเลื่อนใบหน้าได้รูปชนกับจมูกขาว "เริ่มกันเถอะ" 
กิจกรรมรักที่ร้อนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองยังคงทำมันโดยไม่รู้จักดูวันเวลา

"อ่า~~ แทฮยองลึกๆสิครับ" เสียงครางของยุนกิ ชวนให้อีกคนเพิ่มแรงลงไปอีก

"อ่า~ อะ อะ อ่าาาาาาาา" ร้องแรง เล้าโล้มและรุมร้อน ไม่อยากจะเชื่อว่ายุนกิจะยอมรับ แรงกระทับทุกอย่างของแทฮยองด้วยความเต็มใจ ไร้น้ำตาอาบแก้ม ไรความกังวล และเปิดเผย

"พอแค่นี้นะ กูเมื่อยแล้ว" เขาคงใช้เรื่องพวกนี้มากเกินความจำเป็นสำหรับมนุษย์คนนี้ไม่ได้เพราะเขาเองก็เริ่มอ่อนเพลียแล้

"อีกนิดไม่ได้หรอ ขอแค่อมก็ได้" แทบจะเป็นไปไม่ได้
ยุนกิขอทำเรื่องอย่างว่าต่อโดยไม่รู้จักเหนื่อย

"พอๆกูให้แค่แปบเดียวห้ามนานไม่งั้นกูจะกัดมึงให้พรุนเลย" การพยักหน้าของอีกคนแสดงความยื่นยัน
แทฮยองไม่รู้ว่าสัมผัสตรงหน้าเรียกว่าอะไรแต่ตอนนี้ คนตรงหน้ากำลังอมวัตถุอย่างว่าของเขาเหมือนเด็กทารกอยากนมไม่มีผิด

"หิวมากรึไง" 

"อืม จ๊วบๆๆๆ" ยังคงดูดต่อสินะ ไอเด็กนี้ แค่จะเล่นนิดหน่อยแต่กลับเป็นเขาเองที่ต้องมายอมแพ้เกมส์นี้แล้วไปต่อที่กัดคอสิ เขาทนโดนเด็กคนนี้เล่นเกมส์ของเขาซะเองไม่ได้ แล้วกัดคอแล้วซูบเลือดซะ ยุนกิจะได้เป็นไปตามเกมส์ของเขาซะ

"อือ เจ็บจัง" เสียงร้องสุดท้ายของคนตัวขาว หลังจากที่ทนโดนดูดอวัยวะยู่นานก็ถอนมันออกจากปากสวยของยุนกิแล้วหันมากัดคอ เขาต้องการให้เกมส์นี้จบแล้วละ ก่อนที่จะเลียแผลและส่งอีกคนเขานอน ด้วยรอยเขี้ยวคมที่คออีกครั้ง
รู้สึกเพลียมาก เหมือนผ่านเรื่องหนักๆมาทั้งคืนแถมยังคาวปากแปลกๆ แต่วันนี้ที่แปลกที่สุดคงจะเป็น คิม ซอกจิน นาฬิกาปลุกคนนั้น หายไปไหนกันนะ เพราะจำอะไรไม่ได้เลยเขาจึงพยามสำรวจรอบห้อง ตอนนี้เขารับรู้ว่ากลับมานอนที่ห้องตัวเองแล้วแต่ ก็ยังคงสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน 

"เจ็บ" ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือความเจ็บที่ส่วนช่องทางรัก ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกจนกระทั่งเจอรอยแดงที่คอ ทำไมจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนอยู่กับใคร จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่จำได้คือ เขานอนอยู่ในห้องของปาร์ค จีมิน ไหนตอนนี้ถึงกลับมาที่ห้องตัวเอง พออยากนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเลยพยามพยุงตัวเอง จากในห้องเกาะราวบันไดทางเดิน สำรวจความผิดปกติของบ้าน บ้านมันเงียบเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ คิมซอกจินหายไป ไปไหนไม่รู้ ที่ห้องก็ไม่เจอ หรือว่าเขาจะถูกพี่ชายแสนดีคนนั้นทิ้งไปแล้ว

"มาทำอะไรที่ชั้นกู" เสียงโทนอบอุ่น แต่ทำไมคนพูดถึงได้ดูน่ากลัวทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้า 

"คือว่า เดินมาหาพี่ซอกจินครับ ขอโทษจริงๆนะครับ" พูดขอโทษออกไปแบบนั้นก็เลยถูกอีกคนส่วนกลับด้วยท่าทางที่ดูไม่พอใจ แล้วปิดประตูเข้าห้องไปก่อนทิ้งคำที่ทำให้เขาขนลุกไปทั้งตัว

"คืนนี้มึงก็ต้องขึ้นมาเอากับกูอยู่ดี" ไม่เดาก็คงรู้ตอนนี้เขาอยู่ที่ชั้น3 ฉันของจองกุก สินะ
พอเริ่มตั้งสติได้ก็เดินกลับมาชั้นล่างของบ้าน มีแม่บ้านเตรียมอาหารไว้ให้พอสมควร แถมยังทักทายกันอย่างเป็นมิตร

"ทานข้าวนะคะ"

"คุณป้าครับ พี่ซอกจินไปไหนครับ" ระหว่างตักอาหารเข้าปาก ก็ถามหาพี่ชายจากคนในบ้าน

"ไปข้างนอกคะ ไปทำงานไม่ได้บอกไว้ว่าจะไปไหน บอกแค่ว่าจะกลับดึกๆฝากดูแลยุนกิด้วย"

"ขอบคุณนะครับ" ยิ้มบางให้แม่บ้านคนนั้นแล้วกลับไปที่ห้องตัวเอง นอนลงกับเตียงอย่างง่วงๆอาจจะเป็นเพราะอ่อนเพลียสะสมก็เลยเผลอหลับไปยาว จะว่าไปการอยู่เงียบพักสบายๆก็ดีสำหรับเขาเหมือนกัน

"มึงจะมาได้รึยังนี้เย็นแล้ว" เสียงตะโกนออกมาจากหน้าห้องทำให้ยุนกิต้องเรียกวิญญาณที่กำลังเฝ้าพระอินทร์อยู่ให้กลับมาเปิดประตูห้อง

"ครับ" ยุนกิตอบทั้งๆที่ไม่ลืมตา ก็เป็นแบบนี้ทุกทีที่ต้องมีคนมาปลุกแบบนี้ พอเปิดประตูขึ้นมาก็เจอเลยละ คนที่มาเรียกเขาจากฝันหวาน จอน จองกุก 
เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่ยุนกิอยู่ภายใต้ร่างใหญ่ของจองกุกแถมโดนจ้องอย่างไม่วางตา ไม่รู้ว่าเขาควรบรรยายความรู้สึกตรงหน้ายังไง รู้แค่ว่าชายคนนี้น่ากลัว น่ากลัวมากจริงๆ

"มึงนี้ตัวหอมนะ" ใบหน้าหล่อได้รูปเลื่อนเขามาชิดใบหน้าคนตัวขาวแถมซูดด่มอย่างพอใจก่อนเอ่ยออกมา ใบหน้าที่ห่างกันเพียงปลายนิ้ว ตอนนี้ยุนกิรู้สึกอึดอัดเอาซะมากๆก็ พอเลิกจองหน้า ก็ดันเอาหน้ามาแนบแก้มเขาอีก 

"มึงไม่พูดกับกูหน่อยหรอ หรือมึงรอที่จะครางให้กูฟังอย่างเดียว" อสรพิษก็ยังคงเป็นอสรพิษ เกือบว่างใจให้คนตรงหน้าไปแล้ว แต่ยังไงจองกุกก็คงเป็นพวกเดียวกับพี่ๆของตัวเองอยู่ดี หวังแต่เรื่องอย่างว่าจากร่างกายของยุนกิ

"ตกลงว่าไง ไม่พูดใช่ไหม" ใบหน้าหล่อของจองกุกกดลงบนปลายจมูกลั้นของยุนกิ "รึมึงรอให้กูจูบก่อนถึงจะพูดได้" ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็โดนจูบซะแล้ว
มิน ยุนกิคนโง่ปล่อยตัวให้จองกุกง่ายๆได้ยังไง แต่สัมผัสของจองกุก มันก็ผิดกับคนอื่นที่ผ่านมาจริงๆ แต่ถ้าพูดออกไปว่าชอบก็คงไม่ใช่ เพราะเขายังรู้สึกถูกข่มอยู่ 

"มึงต้องร้องไห้ดังนะ ตอนที่กูเอามึง เอาให้ดังกว่าพวกมัน ถ้ามึงร้องไม่ดังกูจะลงโทษมึง" เอะอะก็ใช่แต่กำลังจองกุกนี้เป็นคนแบบไหนกันแน่นะ

"จะลงโทษยังไงละครับ"

"กูจะจูบมึงให้ปากบวม กูจะกดมึงให้จมกับเตียงเลย แต่ถึงยังไงกูก็ต้องทำอยู่แล้ว ช่างแม่งขี้เกียจพูดแล้ว เรามาเอากันดีกว่านะ ไอน้องชาย" ทันทีที่จบประโยคร่างที่ประชิดตัวอยู่แล้วกดแรงมากขึ้น เขากระชากเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออกอย่างไม่ใยดี สบตายุนกิครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มกิจกรรมรักอันเร้าร้อน

"กูจะเอามึงแล้วนะ" ถึงอย่างนั้นยุนกิก็รู้สึกเร้าร้อนตามไปด้วย ทั้งคำพูดและการกระทำของจองกุกจุดฉนวนให้ความยาก หรือที่พวกมนุษย์เรียกกันว่าโลภ เพิ่มมากขึ้น เขาต้องการมันอีก ต้องการมันมากๆ 

"อ่า~ คุณจองกุก เบาๆหน่อย โอ๊ย อ่า~" ไม่รู้เพราะแรงที่เยอะไปของจองกุกหรือความบางของยุนกิแต่เขาก็เผล่อร้องออกมาในระหว่างที่ถูกเสียบเขาด้วยของแข็ง แรงกดลึกของมันมีมากขึ้นตามแรงของจองกุก เขากำลังคึกมากๆ เหมือนได้กินยาบ้ามาเลยละ เขากดแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนของสีแดงไหลออกมาจากช่องทางรัก ถึงกระนั้น ยุนกิก็ไม่ได้ปรามให้หยุดแต่กลับบอกไปว่า

"อ่า~ ดีแล้ว อ่า~ เอาอีก อ่า~~ ผมอยากได้อีก" จะว่าไปแล้วไอเด็กนึ้ก็แปลกคนโดนเอามาตั้งหลายหนแต่กลับมา คร่ำครวญของจากจองกุกซะมาก เห็นที่ผ่านๆมากับพี่ๆของเขา ก็ทำแค่นั่งร้องไห้ ยอมรับชะตากรรม แต่ทำไมถึงกลายเป็นเด็กแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้
ของแข็งของจองกุกถูกเสียบลงช่องทางรักอย่างไม่คิดหยุดพักแต่แค่นี้สำหรับยุนกิมันคงน้อยไปด้วยซ้ำ เขาเอามือของตัวเองมาดึงแล้วจิกหลังของจองกุกไว้ขนาดโดนกระทำ แต่ก็ไม่วายที่จะเอาหน้าของจองกุกกดลงซอกคอของตัวเอง
"มนุษย์เนี้ยโง่เหมือนนายทุกคนรึเปล่านะ" จองกุกซูดกลิ่นกายที่หอมหวานก่อนบรรจงวางเขี้ยวคมลงบนเนื้อเนียน ไหลขาวถูกแทนที่จากรอยแดงที่ถูกแทฮยองดูดด้วย รอยเขี้ยวคมของจองกุก

"อือออออออ"

"เจ็บไหมละ กูบอกแล้วไงมึงมันโง่ยุนกิ มึงทำให้กูหิวเองนะ" จองกุกไล่กัด ตามตัวที่มีรอยแดงที่เกิดจากการกระทำของพี่ชายทั้งหมดของพวกเขา จองกุกลบมันด้วยเขี้ยวคมจนเกือบลืมไปว่า ตัวเองกัดแรงแค่ไหน เขากัดจนเป็นแผลลึก แต่อีกคนที่นอนอยู่ก็เอาแต่ร้อง "อือออ" แบบนี้ตลอด 

"กูบอกแล้วไงว่าเจ็บ แต่กูไม่หยุดนะกูไม่ไหวแล้วกูหิว" 
จองกุก เพิ่มรอยเขี้ยวให้มากกว่าเดิม ไล่กัดตามร่างกายขาวที่ถูกซอกจินสัมผัส ร่างกายที่ถูกกดจากนัมจุน ร่างกายที่ได้รับแรงกระทำจากโฮซอก ร่างกายที่ได้รับรอยจุบอุ่นของจีมิน ร่วมไปถึงไอการกระทำบ้าๆเมื่อวานที่หลง มนต์สะกดของแทฮยองด้วย เขากัดมันทุกส่วนเพื่อลบภาพ ที่ทุกคนมรรวมกับยุนกิ เพียงเพราะยากให้ยุนกิเป็นแค่โมเดลของเขาคนเดียว พอหันมาดูอีกที่ยุนกิก็สลบไปแล้ว 

"มึงจะรู้ไหมว่ามึงเป็นคนแรกที่กูเห็นแล้วอยากเอาที่สุด" นิ้วเรียวกดลงบนคอขาวเพื่อสร้างแผลให้ดูเหมือนรอยเคี้ยว แผลในร่างกายยุนกิถูกลิ้นสวยลูบไล่เพื่อทำความสะอาดจากปากของแวมไพร์ โดยปกติแล้วคุณสมบัติของมันจะ ช่วยรักษาบาดแผลที่ฉีกขาดแต่จองกุกทำเพื่อตรีตรา หรือแสดงความเป็นเจ้าของทับรอยทุกรอยนั้นแหละ

"อือ แม่ผ....ผมหนาว" ยุนกิร้องขึ้นมากลางดึก ตอนนี้ในห้องไม่มีจองกุก ในห้องมีแต่รอยบาดแผลเต็มตัวเขา กับเลือดที่เปียกชุ่มผ้าปูที่นอน ทั้งเลือดจากช่องทางรักและเลือดจากบาดแผล มันเจ็บจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว เหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆเลยละ

"มึงร้องทำไมกูรำคาญ" นี้ไม่ใช่เสียงของจองกุก แต่เป็นเสียงของโฮซอก ชายปากดีคนนี้ที่พึ่งกดยุนกิจมเตียงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็มาเป็นห่วงจนได้ ก็ห้องนอนเขาหนะอยู่ตั้งชั้นสี่ แค่เสียงเล็กของคนป่วยจะไปได้ยิ้นได้ไง ตั้งใจลงมาหานั้นแหละคือคำตอบ

"นี่มึงไข้ขึ้นหรอ ตัวร้อนจี้เลย มนุษย์เขาทำกันยังไงละ กูตามจี้มินให้ละกัน มึงไปนอนห้องตัวเองนะ"  ปากแข็งคงเป็นคำที่ใช่นิยามชายคนนี้สินะ ก็เป็นห่วงนึ้นแหละ 

"อืออ"

"ให้กูทำไง มึงรอจีมินแปบหนึ่งสิ"

"ห....หนาว" 

"กูกอดก็ไม่อุ่นหรอก รอแปบสิ ห่มผ้าไปซะ มึงคงเจ็บมากสินะ แผลทั้งตัวเลย เดี่ยวรอก่อน จีมินกำลังลงมา" 

"อือออ" 

"เหมือนกูพูดคนเดียวเลย " อยู่ๆโฮซอกก็หัวเราะให้กับท่าทางของตัวเอง มีอย่างที่ไหนละ มานั่งมองคนป่วยแล้วหัวเราะหนะ ไม่นานนักจีมินก็เดินเขามา พร้อมกับแทฮยอง 

"น้องเป็นไรโฮซอก" 

"กูไม่รู้ตีวมันร้อนแผลก็เต็มตัว ไอ้เหี้ยกุกกินแล้วไม่เคยเก็บแบบนี้ทุกทีแหละ" 

"อะไรนะ น้องมันนอนกับจองกุก" แทฮยองเปิดตากว้าง

"มึงรีบเลยจีมิน เดี่ยวมันตาย" 

"มึงจะแช่งมันทำเหี้ยอะไรไอแท"

"กูไม่ได้แช่งรีบไปดูสิ กูรู้สึกได้แปลกๆ" 

พอจีมินตรวจเช็คดูเท่านั้นแหละเป็นไปตามคาด ไข้สูงแบบนี้ ใจสั่นแบบนี้ ความดันแบบนี้ แผลที่ถูกกัดติดเชื้อ และคงลามไปถึงส่วนต่างๆของร่างกายแล้ว 
ทันทีที่รู้หมออย่างจีมินเลยรีบทำแผลให้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของยุนกิถูกบิดรอยแผลด้วยผ้าก็อสสีขาว มันถูกพันบางแผล ส่วนบ้างแผลก็ลึกจนต้องเย็บแผล ผิวขาวๆตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยผ้าก็อสสีขาว จนไม่ต้องมีเสื้อผ้ามาปกปิดก็ดูไม่โป้อะไร้ เพราะร่างกายของเขามีแต่รอยบาดแผล แม้กระทั่งซอกนิ้วยังไม่เว้น 

"เดี่ยวกูเอาเลือดยุนกิไปตรวจ แล้วเดี่ยวกลับมา ไปตามพี่จินกลับมาให้เร็วที่สึดและก็โฮซอกกูฝากดูยุนกิด้วย ถ้าเลือดมันออกเยอะมาก มึงต้องรีบล้างแผลให้น้องใหม่ ทุกคนเข้าใจแล้วนะ"

"แล้วนี้นัมจุนไปไหนอะ" 

"ไปกับพี่จิน ตามกลับมาพร้อมกันนั้นแหละ กูฝากพวกมึงด้วยนะ" 
จีมินเดินออกไปด้วยความเร่งรีบ แต่ละคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ในห้องพักจึงเหลือแค่คนตัวเล็กกับโฮซอกที่ยืนมองอยู่

"ห...หนาวเจ็บ อืออ" 

"กูบอกแล้วไงกูทำอะไรไม่ได้ จีมินก็ฉีดยาให้มึงแล้วไง" 

"ห...หนาว อึก แม่ครับอย่าทิ้งผมไปนะ อึก" สำหรับยุนกิแล้วการเสียแม่ไปทั้งๆที่อายุยังน้อยอาจเป็นเรื่องที่ทำใจยาก เขายังคงเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ยังไม่พร้อมจะเสียคนที่รักไป แต่พระเจ้ากลับเล่นตลกกับชีวิตเขาส่งเขามาให้ปีศาจอย่างจองกุก 

"กูสงสารมึงนะ มากูกอดมึงก็ได้ แต่ไม่หายหนาวหรอกนะ" โฮซอกกอดคนตัวเล็กด้วยความอ่อนโยน จะว่าไปผู้ชายปากแข็งแบบเขาก็พึ่งจะทำแบบนี้ครั้งแรกละนะ

"อยากทิ้งผมไปนะ ขอร้องละอย่าไปไหนนะ" 

"เอ่อ กูสัญญามึงก็ห้ามตายละ กูก็รู้สึกถูกใจมึงนั้นแหละ อย่าทำให้กูต้องอกหัก ตั้งแต่รักแรกละ" แข็งถือแต่อบอุ่น โฮซอกเป็นลูกชายที่ดูเหมือนจะได้รับนิสัยของพ่อเขามาเต็มๆ ผู้ชายที่ดูดุดันน่ากลัวแต่กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน อบอุ่น และปกป้องเราได้ ผู้ชายที่ชื่อโฮซอก
สัมผัสของแวมไพร์ไม่ได้ทำให้อบอุ่น ไม่ได้หายหนาวเลย แต่มันทำให้เขารู้สึกได้ว่า
.
.
.
.
.
ไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก
หลังจากกอดกันได้สักพักโฮซอกก็ตรวจอาการของยุนกิ ผ้าพันแผลที่ตอนแรกที่เป็นสีขาว เริ่มมีเลือดของคนตัวเล็กไหลซึมออกมา โฮซอกจึงรีบทำแผลให้คนตัวเล็ก 

"เจ็บมากสิมึงถึงได้หน้าซีดขนาดนี้ รอจีมินแปบเดี่ยวมันรีบกลับ" 

"กลับมาแล้ว โฮซอก พายุนกิไปโรงพยาบาลเถอะกูว่าเดี่ยวเคลียให้เอง" หมอหนุ่มเดินเข้ามาอย่างเคร่งเครียด

"งั้นไปเลย มันละเม่อว่าหนาวอยู่ได้กูเริ่มรำคาญแล้วรีบไปเถอะ" โฮซอกก็ยังคงปากแข็งแต่ก็อุ่มร่างเล็กของยุนกิขึ้นรถแล้วออกไปพร้อมกับจีมิน 
เป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมงที่จีมินหายไปในห้องผ่าตัดเขาบอกว่า ร่างกายยุนกิกำลังแย่ ยังไงก็ต้องรีบรักษา ถ้าไม่ได้มีอะไรร้ายแรงก็คงไม่หายไปนานขนานนั้นหรอก เพราะจองกุกใช้ใหม่ที่กำลังพรากรักแรกของโฮซอกไป ถ้าไม่มีจองกุก ยุนกิก็จะยังคงปลอดภัย ไม่รู้ว่ามันทำระยำอะไรกับร่างกายของยุนกิ 
ยุนกิกำลังแย่

ความรู้สึกของโฮซอกเองก็เช่นกัน

มันคงไม่ต่างกับตอนที่ต้องเสียของสำคัญไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ

ขอร้องได้ไหม 

ช่วยทำให้เราสองคนเจอกันเร็วกว่านี้

เจอกันในแบบที่ดีกว่านี้

ขอให้เราได้รักกันสักครั้งก็ยังดี



---------------------------------------------------------------------
จบแล้วย่า~
โฮปก้าสินะ
อวยคนอื่นแทบตายสุดท้ายไรท์ก็มาจมความอบอุ่นของโฮปเอง
นั้นแหละ
จะกลับไปแต่งฟิคยาวแล้วน่า~


ลุมกินยุนกิ past1 [7p]


เพราะเกิดมาเป็นยุนกิ ชีวิตถึงได้เป็นแบบนี้
มิน ยุนกิ อายุ 17 ปี ถูกพ่อส่ง(บังคับขมขู่)ให้ย้ายบ้านไปอยู่ในบ้านใหญ่ในฐานะ ลูกคนเล็กสุดของบ้าน
แต่สิ่งที่ยุนกิต้องไปเจอคือผู้ชายประหลาด 6 คนในบ้านที่ดูแล้วก็ไม่มีใครปกติสักคนเลย เพราะพวกเขาเป็นแวมไพร์
พี่ชายคนโตของบ้านคิมซอกจิน ดูมีภูมิฐาน ดูดี แต่กลับเต็มไปด้วยความน่ากลัว เป็นลูกของคุณนายที่2
พี่ชายคนรองคิม นัมจุนดูน่ากลัวตั้งแต่เห็นหน้าเลยละ น่ากลัว กว่าพี่ซอกจินด้วยซ้ำไป ตาก็แดง น่ากลัวไปหมด เป็นน้องชายของพี่ซอกจิน
พี่ชายคนที่3 จอง โฮซอก เป็นลูกชายที่เกิดจากภรรยาที่3คนพ่อ พี่โฮซอกดูเป็นมิตรที่สุด แต่ร้ายลึกมากๆ
พี่ชายคนที่4 ปาร์ค จีมิน เป็นลูกชายจากภรรยารองคนที่4 พี่จีมิน เป็นคนใจดีพอๆกับพี่โฮซอก ถึงจะดุในบ้างครั้งก็ตาม
พี่ชายคนที่5 คิม แทฮยอง เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด ชอบทำตาดุ ใส่ตลอดเวลาเป็นลูกของคุณนายที่ 2
พี่ชายคนสุดท้าย เป็นลูกคนเล็กของคุณพ่อ ชื่อ จอน จองกุก เป็นคนเดียวในบ้านที่ได้ใช่นามสกุลคุณพ่อ เป็นลูกชายของคุณนายที่ 1 พี่จองกุก เป็นคนชอบเอาแต่ใจ ไม่ค่อยสนใจใคร นอกจากตัวเอง เป็นพวกขี้เอาแต่ใจ
แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการย้ายมาที่บ้านหลังนึ้อีกสิ่งคือ
ยุนกิตกเป็น "เหยื่อ"

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่บ้านใหญ่หลังนี้ชีวิตของยุนกิก็เปลี่ยนไป เข้าถูกกำหนดตารางชีวิตให้เปลี่ยนห้องนอนทุกวัน ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าไป สัมผัสที่รู้ว่าตัวเองเป็นแค่เหยื่อชัดเจนขึ้น ตั้งแต่ก้าวเข้าไปในบ้านหลังนี้
ห้อง 821
พอเปิดประตูเข้าไป ข้างในห้องตกแต่งสไตล์คลาสสิคสีผนังห้องเป็นสีครีม สีโซฟาชมพูอ่อน หวานราวกับเจ้าหญิง

"เดินมาที่เตียงสิ" เสียงหวานของชายหนุ่ม ดูอบอุ่น อ่อนโยน ห้องนี้เหมือนกับเทพนิยายในสายตาของยุนกิเลยด้วยซ้ำ

"เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม มีชุดให้นายใส่ด้วยนะ" เขาหยิบชุดที่ดูก็รู้ว่าเป็นสีชมพูส่งมาให้ แล้วบังคับให้อีกคนเข้าไปเปลี่ยนมัน แลดูชุดที่เขาให้เปลี่ยนมันแปลกๆยังไงไม่รู้ ชุดนอนแบบกระโปรงริ้วๆ สีชมพูอ่อน ใส่แล้วให้ความรู้สึกเหมือนสาววัยแรกแย้ม ถ้าไม่ติดว่ายุนกิเป็นชายหนุ่มละก็ใบหน้าหวานของเข้าเป็นที่น่าจับต้องของชายทุกชนชั้น

"ชุดมันแปลกๆไหมครับ" ยุนกิถามคนตรงหน้า ตอนนี้เขามารอยุนกิอยู่ที่โซฟาใกล้เตียงแล้วด้วยชุดนอนสีครีมของผู้ชาย ให้ตายสิทำไมต้องบังคับให้มาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ

"ไม่หรอกมานี้สิ พี่หิวแล้ว" พอเดินเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อของซอกจินก็อดหลงไม่ได้ เขาเป็นคนที่ดูดี ตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ

"คุณซอกจินเรียกตัวเองว่าพี่ โดยที่ยังไม่รู้จักอายุของผมเลยนะ"

"ทำไมจะไม่รู้ละ ตั้งแต่นายเกิดพวกเราก็มองนายมาตลอดนั้นแหละ" แววตาของซอกจินยังคงอบอุ่นและอ้อนโยนตลอดการสนทนา

"พวกคุณมองผมมาตลอดเลยหรอ" เพราะความไร้เดียงสาจึงถามออกไปแบบนั้น

"อืม ตั้งแต่พ่อแต่งงานกับมนุษย์คนนั่นเลยก็ว่าได้ พวกเราไม่เคยคิดหรอกว่าพ่อจะไปหลงรักมุนษย์ได้"

"หมายความว่า พวกคุณทุกคนในบ้านก็เป็นพี่ผมหมดเลยสิครับ"

"นายนี้ไร้เดียงสาจังนะ" เขาพายุนกิมานั่งลงกับเตียงนุ่มแล้วพานอนกอดกันบนเตียง

"ทำอะไรอะครับ" ยุนกิพยามขัดขืนอ้อมกอดของซอกจิ

"มันเมื่อย นอนคุยดีกว่า ว่าแต่นายอะ รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพ่อบ้างไหม"

"ผมจำได้แค่ตอนเด็กๆแม่เล่าให้ฟังว่า พ่อมีเมียหลายคนแต่ก็ดันมาจีบแม่ แม่เองก็รักพ่อ จนพวกเขาทำพลาดจนมีผม แม่บอกว่าพ่อจะฆ่าผมด้วยซ้ำเพราะกลัวว่าผมจะทำให้แม่ตาย แต่ผมก็รอดมาได้ แม่เองก็เหมือนกัน แต่ผมไม่มีเชื้อสายของพ่อติดมาเลย"

"ก็ยังดีรู้ไหมทำไมเขาถึงกังวล เพราะตอนแม่ของโฮซอกกับจีมินตาย หมอบอกว่า เพราะกำลังของเด็กมากเกินไป แม่ก็เลยรับแรงไม่ไหว "

"แล้วแม่ของพี่ซอกจินละ"

"แม่พี่ท่านเสียเพราะโรค ท่านป่วย"

"แบบนี้ก็เหมือนกิเลยสินะ แล้วคุณแม่ของจองกุกละ"

"ท่านตรอมใจที่พ่อไปแต่งงานกับแม่นาย จองกุกเลยไม่ค่อยชอบนาย ระวังตัวละกัน ชั้น3ทั้งหมดเป็นของจองกุก เดินไปหานัมจุนที่ชั่น 4 ก็ระวังตัวละกัน" 

"แล้วนี้พี่จะไม่" คำพูดของยุนกิถูกปิดด้วยริมฝีปากหวานของซอกจิน

"ถือว่าเป็นวันแรกพี่ให้เราฟรี แต่อาทิตย์หน้าต้องไม่ป่วยไปก่อนมาเจอกันละ คืนนี้ก็นอนนี้แหละฝันดีครับ"
เพราะคำพูดของพี่ซอกจินทำให้ตาของผมหลับลงแบบง่ายดาย เขาดูแตกต่างจากจินตนาการของผมเอามากๆเลย ทั้งอ่อนโยน ใจดี แถมยังอบอุ่น หวังว่าพี่ๆคนอื่นจะเป็นแบบพี่ซอกจินนะ
เช้าวันที่สองของการอยู่บ้านหลังนี้วันแรกก็พอมีอะไรให้ทำ จัดห้องเก็บนู่นนี้ไปเรื่อย แต่วันนี้ไม่มีอะไรให้ทำเลย น่าเบื่อเหมือนกัน เมื่อตอนเช้าตื่นมาที่ห้องพี่ซอกจิน เขาทำอาหารให้ผมทานด้วยละ เป็นคนดีมากๆเลย วันนี้กิต้องไปห้องของพี่นัมจุน เขาเป็นน้องชายของพี่จินด้วย หวังว่าพี่คนนี้จะใจดีเหมือนกับพี่ชายของเขานะ แต่คนบ้านนี้ตอนกลางวันไม่เห็นสักคนเลย จะเห็นก็แค่แม่บ้านกับพวกคนสวน กิเดินลงมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าเปียโนหลังใหญ่สีดำ มันสวยมากๆเลยละ จำได้ว่าเล่นครั้งล่าสุดตอน 6 ขวบ ก่อนคุณแม่จะเสีย ตอนนั้นพ่อแม่แล้วก็กิเรามีความสุขกันมากจนแม่ป่วย ท่านก็เสียในเดือนถัดมา พ่อทิ้งให้กิอยู่คนเดียวกับพวกแม่บ้าน จนได้ย้ายมาที่นี้แหละ

"ชอบมันหรอ" เสียงนุ่มของชายหนุ่มแนบหูของยุนกิ

"ใครครับ"

"จอง โฮซอก" เสียงของเขาเปรียบเสมือนล่มเย็นผ่านหู

"มายืนมองอะไรล่ะ อยากเล่นก็เล่นสิ มันไม่มีคนเล่นมานานแล้ว"

"เล่นได้จริงๆใช่ไหม"

"ก็ได้สิ เล่นเลยฉันอยากฟัง" คนตัวเล็กกว่าเดินไปที่เปียโนแล้วกดมันตามทำนองอย่างคล่องแคล่วเสียงเพลงที่ดังออกมาทำให้หัวใจที่เย็นชาของโฮซอก สั่นไหว มนุษย์ที่ชื่อยุนกิคนนี้ สร้างความตื่นเต้นให้เข้าได้ไม่น้อยตั้งแต่ได้ยินชื่อ ตั้งแต่ที่ได้กลิ่นยุนกิเข้ามาในบ้านทั้งหอมหวาน จนเขาแทบจะรอไม่ไหว คนตรงหน้ามีเสน่ห์จริงๆ

"ใครสั่งให้มึงเล่นมินยุนกิ" เสียงทุ่มดังมาจากด้านหลังจนต้องหยุดทุกการกระทำทุกอย่าง เสียงของลูกชายตนสุดท้องของบ้าน ทั่งน่ากลัว ดูอันตราย เสียงของชายคนนั้น "จอน จองกุก"

"ใครสั่งให้นายเล่นเปียโน" แววตาดุดันกับน้ำเสียงที่ก้าวร้าวทำให้มินยุนกิตัวสั่น เขากลัว สัมผัสต่อจองกุกแตกต่างจากพี่น้องคนอื่นที่เคยเจอมา เขาดูน่ากลัวเกินกว่าจะเป็นน้องเล็กของบ้าน

"ฉันเอง นายจะกลัวอะไร ยุนกิแค่เล่นมันเอง มันนานแล้วนิ ที่ไม่มีใครได้เล่นตั้งแต่"

"เงียบปากของนายซะ จองโฮซอกก่อนที่ฉันจะฉีกนายเป็นชิ้นๆ" เสียงของจองกุกทั้งดุดันแล้วน่ากลัว ไม่มีเลยสักนิดสัมผัสที่อ่อนโยนของเขา

"ผมขอโทษอย่าทะเลาะกันเพราะผมเลยนะครับ" มนุษย์คนเดียวที่อยู่ตรงนั้น ไม่อาจห้ามให้แวมไพร์ที่มีเหยือขวางกลางให้เลิกทะเลาะกันได้เลย มันกลับทำให้ทั้งสอง เข้าใกล้ยุนกิ แนบกับเนื้อเนียนแล้วสูดดมมันมากขึ้นไปอีก
"หอมดีนิ ไม่มีกลิ่นสาปมนุษย์แบบที่คิดไว้ ถือว่าจะปล่อยไปก่อนละกัน ไว้เจอกันดีกว่าคุณน้องชาย" จองกุกไม่พูดเปล่าแถมส่งสายตา เจ้าเล่ห์ใส่ยุนกิ

"ไม่ต้องไปสนใจหรอก จองกุกมันก็นิสัยแบบนี้แหละ แต่ยุนกิไม่ต้องกลัวนะ เพราะโฮซอกจะทำให้ยุนกิสนุกให้ได้เลยละ" โฮซอกยิ้มโชว์เขี้ยวงามก่อนเดินจากไป
รู้ตัวอีกที่ก็ถึงเวลาที่ยุนกิต้องไปทำหน้าที่ของเขาเสียแล้ว พอขึ้นไปบนห้องก็เจอเสื้อผ้าพร้อมกระดาษโน๊ตที่ว่า 

"เปลี่ยนชุดแล้วค่อยขึ้นมาชั้น4" เสื้อผ้าที่เปลี่ยนเป็นถุงน่องยาวมีเสื้อคลุมด้านบนปกปิดแผงอกขาวเนี้ยน ผู้ชายบ้านนี้เป็นกันหมดรึไง ชอบจับยุนกิมาแต่งตัวแบบผู้หญิง แต่เขาก็จำนนต่อหน้าที่ เดินขึ่นไปชึ้นสี่ด้วยความรวดเร็วเพื่อหลีกเลี้ยงการเจอ จองกุก

ห้อง 841
ห้องโทนสีดำ ร่วมถึงของตกแต่งในห้อง ห้องเงียบราวกับไม่มีคนอยู่ ยุนกิเดินไปนั่งลงบนเตียงของห้องนั้นอย่างเคยชิน

"หอมจัง" เสียงชายหนุ่มดังออกมาโดยที่ยุนกิหาต้นเสียงไม่ได้

"อยู่ไหนครับ" เขาพยามถามหาชายคนนั้น

"เดี่ยวลงไปรอแปบ" สักพักมีบ้างอย่างที่มองด้วยตาแทบไม่ทันมานอนอยู่ข้างๆนัมจุนเป็นพวก ชอบทำอะไรเร็วๆ

"นอนลงสิ" เขาผลักยุนกิลงกับเตียงด้วยพละกำลังของตนเอง

"รู้ใช่ไหมว่าเขาทำกันยังไง" ยุนกิทำหน้างง เชิงรับรู้แล้ว นัมจุนฉีกเสื้อผ้าที่เป็นคนจัดมาให้ใส่อน่างทารุณ เผยให้เห็นผิวกายเนี้ยนใส่ตั้งแต่ แผงอกใส่ไปจนถึงระหว่างขาทั้งสองข้าง ไม่ว่าอะไรตัวยุนกิก็ขาวไปหมด

"หันหลังสิ ไม่เคยเรียนรึไง สุขศึกษาของแบบนี้ใครเขาเริ่มจากด้านหน้ากันละ" ไฟในห้องนัมจุนอยู่ก็ดับไปแค่คนสั่งยังคงย้ำคำเดิม เขายอมพลิกตัวให้อีกคนกดทับลงไป ด้วยร่างกายที่ใหญ่กว่าเขาอยู่แล้วบวกกับกำลังที่มีมาก เขากดตัวลงบนแผ่นหลังอย่างรวดเร็วและรุนแรง ปลายเล็บจิกหมอนแน่น สัมผัสที่ได้รับจากนัมจุนตอนนี้มันเจ็บ เขาเจ็บและทรมาณมากจริงๆ ยอมรับว่าในบ้างช่วงมันก็ทำให้ยิ้มออกมาได้แต่แรงมันก็มากเกินไปสำหรับมนุษย์แบบเขา ทั้งๆที่ถูกส่งมาเพื่อให้ดื่มเลือดแต่จู่ๆคนในบ้านนี้ก็ มาทำแบบนี้ซะได้ นัมจุนจับยุนกิที่หมดแรงพลิกตัวกลับมาด้านหน้า ห่มผ้าห่มให้อีกคนก่อนขึ้นค่อมตัวอีกครั้ง เอาหน้าแนบลงคอขาวเนียนดูดดื่มเลือดของยุนกิอย่างอร่อย ยุนกิเป็นมนุษย์ที่สร้างความพอใจให้กับคิม นัมจุนได้มากที่เดียว เขาถอนเขี้ยวจากคนตัวขาวเพราะกลัวเลือดจะหมดตัวตาย จากนั้นก็เลียบาดแผลนั้นด้วยลิ้นของเขาอีกครั้ง ยุนกิยังคงพอมีสติอยู่บ้างจึงถามนัมจุนออกไปอีกครั้ง

"พอแล้วหรอ" คำพูดที่ดูเหมือนต้องการต่อหมดแรงที่จะพูด

"แค่นี้นายก็มีรอยมากพอแล้ว ถือว่าเป็นมื้อแรก จะเบามือให้ละกัน ครั้งหน้านายตายแน่" นัมจุนยกยิ้มแล้วปล่อยให้สติของยุนกิดับไป นี่เขาต้องมาตายตั้งแต่คืนที่สองแบบนี้จริงๆหรอ กลัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกหนีจริงๆ
วันนี้เป็นวันที่สามสินะในการอยู่บ้านหลังนี้ รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว จำได้ว่าเมื่อคืนถูกคุณนัมจุนกิเลือดทำไมถึงได้เพลียแบบนี้ละ ผมพยามดันตัวให้พิงกับหัวเตียง ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงแทรกเขามาเป็นเสียงที่อบอุ่นและใจดีเหมือนกับพี่จิน

"เป็นไงบ้างยุนกิ เพลียใช่ไหม อย่างนี้แหละนอนพักไปก่อนนะ นัมจุนมันหิวมันเลยกินเยอะไปหน่อยพี่ขอโทษแทนน้องชายด้วยละกัน" ตอนแรกก็ว่าจะโกรธแต่ไอการขอโทษจากคนตรงหน้าก็ทำให้หายโกรธไปเลย ถึงจะยังรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยกับเรื่องเมื่อคืนก็ตาม

"พี่จินครับ ผมหิว" อยู่ๆปากก็พูดไปแบบนั้น ก็ท้องมันส่งนิจะให้ทำไงได้ เดินไปเองก็ไม่ไหวด้วย

"ว่าแล้ว นี้ไงพี่ทำข้าวต้มมาให้เราด้วยนะ แต่มันอาจจะไม่ได้อร่อยมากอะไรหรอกนะเพราะพี่ไม่เก่งเรื่องอาหหารของพวกมนุษย์เท่าไหร่ ทนกินหน่อยละกัน" อบอุ่น อ่อนโยน ห่วงใย ถ้าให้เลือกชายในบ้านนี้เป็นสามีคงต้องเป็นพี่จินเท่านั้นแหละ ทั้งอบอุ่นแล้วก็ใจดี เหมือนเทวดาเลยละ

"อิ่มแล้วก็นอนพักเถอะ ยังเพลียๆอยู่นิ อะนี้ครับยา" ทำไมยุนกิถึงได้รู้สึกถึงอากการบ้างอย่างต่อคนตรงหน้าละ เขาเรียกว่า ตกหลุมรักรึเปล่านะ

"ตื่นได้คะคุณยุนกิ คุณโฮซอกให้มาตามไปที่ห้องคะ" แม่บ้านวัยกลางคนเดินมาปลุกฉันที่เตียง เขาให้ฉันไปที่ห้องของลูกชายคนที่3 จองโฮซอกสินะ รู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนสักที่ แต่ก็ยังนึกไม่ออก จนมาถึงห้องนั้นแหละ ห้องเขามีรูปจบการศึกษา จำนวนมาก แต่รูปที่สะดุดตาคงเป็นรูปของผมสมัยมัธยมต้นที่อยู่กับเพื่อนร่วมห้อง มันสะดุดตาจนต้องหยิบจากโต๊ะที่ตั้งอยู่มาดู

"จำได้ไหม มึงจำกูได้ไหม" เสียงของโฮซอกทำเขาตกใจ อยู่ก็มาถาม ออกมาจากตรงไหนก็ไม่รู้แต่ตกใจ มากเลย

"จำอะไร ถ้าหมายถึงตอนมัธยมต้น ลืมไปหมดแล้ว แทบทุกเรื่องเลย"

"ทำไมว่ะ กูไม่น่าจำขนาดนั้นเลยหรอ" เสียงของเขาดูเศร้าๆไปทันที

"เปล่าก่อนจะขึ้นมัธยมปลายผมประสบอุบัติเหตุนิดหน่อย หมอบอกว่าความจำบ้างช่วงบ้างตอนของผมจะหายไป เราเคยรู้จักกันจริงๆหรอครับ"

"กูว่าแล้วว่ามึงต้องจำกูไม่ได้ มึงไม่ตกใจหรอ หน้าตากูไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนนั้นเลย มึงก็ยังจำกูไม่ได้ มึงรู้ไหม กว่ากูจะจำมึงได้ก็นานเลยก็มึงเปลี่ยนไปมากเลยนะยุนกิ เมื่อก่อนกับตอนนี้" เขายิ้มให้ผม

"แต่แย่หน่อยนะ มึงรู้จักกูครั้งนี้มึงต้องมาเป็นเมียกู" ทำไมรู้สึกช้าไปทั้งตัวแบบนี้ กลัวจัง คนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นมิตร เขาเหมือนกับนัมจุนรึเปล่านะ

"ไปกันเลยดีกว่า" เขาดันยุนกิไปเรื่อยๆจนถึงเตียงนอน

"ถอดสิ เรามาเล่นเกมส์กัน ถ้านายตอบผิดฉันกัดนายตอบถูกฉันดูด มาเถอะ" เขาถอดเสื้อผ้าของยุนกิด้วยความทารุณกระชากมันออกจากตัวยุนกิแล้วโยนมันลงพื้นส่วนเสื้อผ้าตัวเองก็เหมือนกัน

"มาตอบนะ" โฮซอกใช้ความที่ตัวเองสูงกว่าอีกคน นั่งครอมอยู่บนร่างเล็กขาวบาง

"ฉันชอบกินอะไรที่สุด"

"ถามแบบนี้ใครจะตอบได้ละ"

"ผิด ฉันบอกให้ชอบกินนายไง" ปากสวยกดลงบนเนื้อเนียน ผิวขาวของยุนกิขึ้นรอยแดง ก่อนจะถอนริ้มฝีปากออกมา

"ข้อต่อไป ถ้าถามว่านายชอบกินอะไรละ"

"ต่อให้ตอบฉันก็โดนกัดอยู่ดี"

"งั้นไม่ต้องถามแล้วเนอะมาเล่นกันเลยดีกว่า" ไอร้อนพุดขึ้นเต็มตัว โฮซอกดูดดื่มรสชาติอันหอมหวานของยุนกิ และไล่ชิมรสของลำตัว คนอะไรก็ไม่รู้หอมหวานเหมือนน้ำตาล ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาทนเพื่อวันนี้ และแล้วเขาก็ได้ชิมรสของยุนกิ สำผัสอ่อนนุ่ม ผิวของเขามันชวนกินจริงๆ ความยากมากมายของโฮซอกไล่ไปตามลำตัว แล้วหยุดตรงระหว่างขาที่เปลือยเปล่าไรที่สวมใส เขาดูดมันอย่างเอร็ดอร่อย ทำไมกลิ่นของมนุษย์ยุนกิถึงได้หอมหวานผิดแปลกจากทุกรสที่เคยกินมา ความอร่อยของยุนกิชวนให้โฮซอกทำเรื่องอย่างว่ากับคนตัวเล็กกว่า

"กูตัวหนักนะ" โฮซอกบอกก่อนเขาเอาส่วนท้ายของตนเองขึ้นค้อมบนส่วนนั้นของยุนกิ ยิ่งได้สัมผัสกับมันยิ่งอยากให้มันเข้าไปในร่างกายของเขาอีก ต้องการมากขึ้นไปอีก มากจนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง เขาไม่เพียงเพิ่มแรงกดให้น้ำรักไหลออกมา แต่ยังกดจูบไปที่ลำคอ ปาก และใบหน้า ผิวขาวขึ้นรอยชำสลับแดง โฮซอกไม่สนใจเสียงครางของยุนกิเลยแม้แต่น้อย เขารับรู้ได้แค่ว่าสุขเหลือเกิน การทำแบบนี้กับร่างเล็กตรงหน้านี้มัน เป็นสิ่งที่เขาโหยหามาทั้งชีวิต ก่อนจะบรรจงเอาเขี้ยวคมกดไปที่คอของยุนกิ ซูบเลือดแสนหวานเขาไป

"ทำเป็นไหมให้กูพอใจ ทำซะ" น้ำตาใสไหลออกจากใบหน้าหวานดวงตาก็พล่ามั่ว จนแทบมองไม่เห็น เขาพยามทำตามที่อีกคนสั่งแต่ก็หมดแรงจนเป็นลมลงไปก่อน

"ทำไมมึงถึงอร่อยขนาดนี้ละ กูรออาทิตย์หน้าไม่ไหวแล้วนะ" กลับมามองคนที่อยู่บนเตียงอีกครั่งแล้วลุกออกไป พร้อมกับยกผ้าห่มปิดเรื่อนร่างที่เต็มไปด้วยรอยชำ เดินเข้าห้องน้ำไป หยิบผ้าเช็ดตัวมาซับรอยซืมของเลือดให้ยุนกิ โฮซอกเป็นประเภทที่ถึงจะทำรุนแรงแต่ก็ยังดูแลรักษา ในสิ่งที่ตัวเองทำไป เพราะแบบนี้ไงเขาถึงยอมไปปล่อยยุนกิไปอีกวัน แต่เขาก็กลัว กลัวว่ายุนกิจะไม่รอดมาเจอเขาในอาทิตย์หน้าก็จองกุกเป็นประเภทที่ชอบขย่ำแล้วก็ทิ้งขว้าง
หวังว่าจองกุกจะไม่ทำเหยื่อของเขาตายหรอกนะ

-------------------------------------------------------------


มาแบ๊ว ขอบคุณสำหรับการตอบรับ ที่มากเกินความต้องการของไรท์ ตามที่บอก nc เรื่องแรก ไม่ชอบด่าได้แต่อย่าแรงนะ แล้วก็ ได้โปรดกลับไปเมนให้เค้าด้วยนะ